นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรี เชิญชวนคนไทยที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนโควิด-19 โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้ป่วยเรื้อรัง มาเข้ารับการฉีดวัคซีน เพื่อจะให้เกิดความปลอดภัยแก่ตนเองและต่อส่วนรวม ซึ่งหากฉีดวัคซีนมากขึ้น คนไทยก็จะมีความปลอดภัยจากโรคและประเทศไทยจะมีความมั่นคงด้านสาธารณสุขมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ รัฐบาล โดยกระทรวงสาธารณสุขและภาคีทุกภาค ร่วมกันกำหนดมาตรการเร่งรัดการฉีดวัคซีน อาทิ จัดกิจกรรมสัปดาห์แห่งการฉีดวัคซีนวันที่ 27 พ.ย. – 5 ธ.ค. 64 และจัดทีม ฉีดวัคซีนเชิงรุกผู้สูงอายุผู้ป่วยติดเตียงและขยายให้กลุ่มแรงงานต่างด้าว
กระทรวงการอุดมศึกษาฯ มหาวิทยาลัย โรงเรียนแพทย์ สื่อสารทำความเข้าใจข้อมูลด้านฉีดวัคซีนให้ประชาชนรับทราบ ด้านผู้ว่าราชการจังหวัด บริหารจัดการกลุ่มเป้าหมายที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนเชิงรุกให้มาฉีดวัคซีน สร้างแรงจูงใจประชาชนฉีดวัคซีนในระดับพื้นที่ เช่น มอบของรางวัลและของแจก ,ภาคเอกชน ผู้ประกอบการ ยังร่วมจัดแคมเปญ์ มอบลดค่าบริการหรือแจกของที่ระลึก สำหรับผู้ใช้บริการที่แสดงผลการฉีดวัคซีน สาเหตุส่วนหนึ่งจากยอดจำนวนผู้ได้รับการฉีดวัคซีนกลับเริ่มชะลอตัว มาจากกลุ่มที่รอวัคซีนทางเลือก และกลุ่มที่ไม่ยอมฉีดวัคซีนจากเหตุผลส่วนตัวประมาณ 11 ล้านคน หรือร้อยละ 17 ของประชากที่มีสิทธิฉีดวัคซีน ซึ่งเป็นความเสี่ยงที่กระทรวงสาธารณสุขต้องเร่งจัดการ เพื่อไม่ให้เกิดการระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่ขึ้นอีก
อย่างไรก็ตาม ตนมั่นใจว่าด้วยความร่วมมือของทุกภาคส่วน ไทยบรรลุเป้าหมายการฉีดวัคซีนกลุ่มเป้าหมายทั่วประเทศ 100 ล้านโดส ภายในสิ้นเดือน ขอเชิญชวนประชาชนให้มาฉีดวัคซีน
ที่มา : สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย