กลุ่มผู้ขับรถแท็กซี่ มอเตอร์ไซค์รับจ้าง อายุเกิน 65 ปี ลงทะเบียนรับสิทธิรับเงินช่วยเหลือ

กลุ่มผู้ขับรถแท็กซี่ มอเตอร์ไซค์รับจ้าง อายุเกิน 65 ปี ลงทะเบียนรับสิทธิรับเงินช่วยเหลือ

logomain

นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยถึงเงื่อนไขผู้ที่จะได้รับเงินช่วยเหลือตามโครงการช่วยเหลือกลุ่มอาชีพผู้ขับรถยนต์รับจ้าง (รถแท็กซี่) และรถจักรยานยนต์สาธารณะที่มีอายุเกิน 65 ปี ที่อยู่ในกลุ่มแรงงานนอกระบบและไม่เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 มาตรา 39 และมาตรา 40 ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 29 จังหวัด ว่า ต้องมีรายชื่อในฐานข้อมูลของกรมการขนส่งทางบก และต้องมีอายุเกิน 65 ปี ก่อนวันที่ 11 สิงหาคม 2564 มีศักยภาพในการขับรถ พร้อมเอกสารใบอนุญาตขับรถสาธารณะ บัตรประจำตัวผู้ขับรถสาธารณะ รถที่ใช้ประกอบอาชีพต้องชำระภาษีครบถ้วน กรณีรถเช่า ต้องยืนยันทะเบียนรถและผู้ให้เช่า โดยกรมการขนส่งทางบกจะทำการตรวจสอบก่อนรับสิทธิ 

ผู้ที่มีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือตามโครงการดังกล่าว ต้องลงทะเบียนขอรับสิทธิช่วยเหลือด้วยตนเอง ระหว่างวันที่ 25 ตุลาคม – 5 พฤศจิกายน 2564 ในวันและเวลาราชการ ณ อาคาร 6 ชั้น 7 กรมการขนส่งทางบก, กลุ่มวิชาการขนส่ง สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-4 และกลุ่มวิชาการขนส่ง สำนักงานขนส่งจังหวัดทั่วประเทศ พร้อมเอกสารบัตรประจำตัวประชาชน ใบอนุญาตขับรถสาธารณะ บัตรประจำตัวผู้ขับรถสาธารณะ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโรคโควิด-19 

ขอให้ผู้ขับรถแท็กซี่และรถจักรยานยนต์สาธารณะที่มีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือ จองคิวออนไลน์ล่วงหน้าผ่านแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue หรือเว็บไซต์กรมการขนส่งทางบก ตั้งแต่วันที่ 18 ตุลาคม – 5 พฤศจิกายน 2564

สำหรับการช่วยเหลือผู้ขับรถแท็กซี่และรถจักรยานยนต์สาธารณะ จะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือผู้ที่ประกอบอาชีพใน 13 จังหวัด ตามข้อกำหนดฉบับที่ 25 และฉบับที่ 28 จะได้รับเงินช่วยเหลือในอัตรา 10,000 บาทต่อคน (ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร ฉะเชิงเทรา ชลบุรี พระนครศรีอยุธยา นราธิวาส ปัตตานี ยะลา สงขลา) และการช่วยเหลือผู้ขับรถแท็กซี่และรถจักรยานยนต์สาธารณะที่ประกอบอาชีพใน 16 จังหวัด ตามข้อกำหนดฉบับที่ 30 จะได้รับเงินช่วยเหลือในอัตรา 5,000 บาทต่อคน (ประกอบด้วยจังหวัดกาญจนบุรี ตาก นครนายก นครราชสีมา ประจวบคีรีขันธ์ ปราจีนบุรี เพชรบุรี เพชรบูรณ์ ระยอง ราชบุรี ลพบุรี สิงห์บุรี สมุทรสงคราม สระบุรี สุพรรณบุรี อ่างทอง) โดยจ่ายเงินผ่านบัญชีเฉพาะการผูกพร้อมเพย์กับเลขบัตรประจำตัวประชาชน โดยรอบที่ 1 สำหรับรถจักรยานยนต์สาธารณะและรถแท็กซี่ส่วนบุคคล กำหนดจ่ายเงินระหว่างวันที่ 8-12 พฤศจิกายน 2564 และรอบที่ 2 กำหนดจ่ายให้กับกลุ่มรถแท็กซี่ที่เช่าขับ ระหว่างวันที่ 22-26 พฤศจิกายน 2564

ที่มา นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยถึงเงื่อนไขผู้ที่จะได้รับเงินช่วยเหลือตามโครงการช่วยเหลือกลุ่มอาชีพผู้ขับรถยนต์รับจ้าง (รถแท็กซี่) และรถจักรยานยนต์สาธารณะที่มีอายุเกิน 65 ปี ที่อยู่ในกลุ่มแรงงานนอกระบบและไม่เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 มาตรา 39 และมาตรา 40 ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 29 จังหวัด ว่า ต้องมีรายชื่อในฐานข้อมูลของกรมการขนส่งทางบก และต้องมีอายุเกิน 65 ปี ก่อนวันที่ 11 สิงหาคม 2564 มีศักยภาพในการขับรถ พร้อมเอกสารใบอนุญาตขับรถสาธารณะ บัตรประจำตัวผู้ขับรถสาธารณะ รถที่ใช้ประกอบอาชีพต้องชำระภาษีครบถ้วน กรณีรถเช่า ต้องยืนยันทะเบียนรถและผู้ให้เช่า โดยกรมการขนส่งทางบกจะทำการตรวจสอบก่อนรับสิทธิ 

ผู้ที่มีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือตามโครงการดังกล่าว ต้องลงทะเบียนขอรับสิทธิช่วยเหลือด้วยตนเอง ระหว่างวันที่ 25 ตุลาคม – 5 พฤศจิกายน 2564 ในวันและเวลาราชการ ณ อาคาร 6 ชั้น 7 กรมการขนส่งทางบก, กลุ่มวิชาการขนส่ง สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-4 และกลุ่มวิชาการขนส่ง สำนักงานขนส่งจังหวัดทั่วประเทศ พร้อมเอกสารบัตรประจำตัวประชาชน ใบอนุญาตขับรถสาธารณะ บัตรประจำตัวผู้ขับรถสาธารณะ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโรคโควิด-19 

ขอให้ผู้ขับรถแท็กซี่และรถจักรยานยนต์สาธารณะที่มีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือ จองคิวออนไลน์ล่วงหน้าผ่านแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue หรือเว็บไซต์กรมการขนส่งทางบก ตั้งแต่วันที่ 18 ตุลาคม – 5 พฤศจิกายน 2564

สำหรับการช่วยเหลือผู้ขับรถแท็กซี่และรถจักรยานยนต์สาธารณะ จะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือผู้ที่ประกอบอาชีพใน 13 จังหวัด ตามข้อกำหนดฉบับที่ 25 และฉบับที่ 28 จะได้รับเงินช่วยเหลือในอัตรา 10,000 บาทต่อคน (ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร ฉะเชิงเทรา ชลบุรี พระนครศรีอยุธยา 

นราธิวาส ปัตตานี ยะลา สงขลา) และการช่วยเหลือผู้ขับรถแท็กซี่และรถจักรยานยนต์สาธารณะที่ประกอบอาชีพใน 16 จังหวัด ตามข้อกำหนดฉบับที่ 30 จะได้รับเงินช่วยเหลือในอัตรา 5,000 บาทต่อคน (ประกอบด้วยจังหวัดกาญจนบุรี ตาก นครนายก นครราชสีมา ประจวบคีรีขันธ์ ปราจีนบุรี เพชรบุรี เพชรบูรณ์ ระยอง ราชบุรี ลพบุรี สิงห์บุรี สมุทรสงคราม สระบุรี สุพรรณบุรี อ่างทอง) โดยจ่ายเงินผ่านบัญชีเฉพาะการผูกพร้อมเพย์กับเลขบัตรประจำตัวประชาชน โดยรอบที่ 1 สำหรับรถจักรยานยนต์สาธารณะและรถแท็กซี่ส่วนบุคคล กำหนดจ่ายเงินระหว่างวันที่ 8-12 พฤศจิกายน 2564 และรอบที่ 2 กำหนดจ่ายให้กับกลุ่มรถแท็กซี่ที่เช่าขับ ระหว่างวันที่ 22-26 พฤศจิกายน 2564

ที่มา  : สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย


Line

คะแนนโหวต :
StarStarStarStarStar