ฐบาล ดูแลเกษตกร จัดครบชุดสินเชื่อ-พักหนี้-ไกล่เกลี่ยหนี้ ช่วยก้าวผ่านวิกฤติโควิด-19

ฐบาล ดูแลเกษตกร จัดครบชุดสินเชื่อ-พักหนี้-ไกล่เกลี่ยหนี้ ช่วยก้าวผ่านวิกฤติโควิด-19

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก  ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กำชับเรื่องมาตรการบรรเทาปัญหาหนี้สินประชาชนและและการเข้าถึงสภาพคล่องของภาคเอกชน ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ให้การดำเนินการต้องครอบคลุมกลุ่มเกษตรกรและผู้ประกอบการในภาคการเกษตรด้วย โดยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) ได้ออกมาตรการสินเชื่อ 2 โครงการ วงเงินรวม 9 หมื่นล้านบาท คือ โครงการสินเชื่อสานฝันสร้างอาชีพ วงเงิน 3 หมื่นล้านบาท ปล่อยกู้แก่เกษตรกรหรือหรือบุคคลทั่วไปที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เพื่อการประกอบอาชีพเกษตร หรือลงทุนค้าขายที่ใช้เงินลงทุนไม่มาก ให้กู้ไม่เกิน 1 แสนบาท/ราย ระยะเวลาชำระคืนไม่เกิน 5 ปี ดอกเบี้ยร้อยละ 4 ต่อปี ปลอดชำระต้นเงิน 2 ปีแรก และโครงการสินเชื่อนวัตกรรมดี มีเงินทุน วงเงินรวม 6 หมื่นล้านบาท ปล่อยกู้ให้เกษตรกรหรือบุคคลทั่วไปที่มีทักษะและประสบการณ์ในการประกอบอาชีพนั้นๆ อาทิ กลุ่ม Smart Farmer เพื่อมีเงินไปฟื้นฟูหรือต่อยอดธุรกิจ ดอกเบี้ย ร้อยละ 4 ต่อปี ระยะเวลาชำระคืน ไม่เกิน 10 ปี ปลอดชำระต้นเงิน 3 ปีแรก

สำหรับการพักชำระหนี้ ธ.ก.ส.ได้ออกมาตรการให้การช่วยเหลือแก่ลูกค้าเกษตรกร บุคคล ผู้ประกอบการและสถาบันเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ด้วย เป็นการพักชําระเงินต้นและดอกเบี้ยที่ถึงกําหนดชําระอย่างน้อย 2 เดือน นับจากงวดชําระเดิม ทั้งนี้ แนวทางการช่วยเหลือขึ้นอยู่กับการได้รับผลกระทบและศักยภาพของลูกค้า ผู้สนใจแจ้งความประสงค์การเข้าร่วมโครงการได้ผ่านช่องทาง LINE Official : BAAC Family เว็บไซต์ https://www.baac.or.th หรือที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขาทั่วประเทศ สำหรับลูกค้าผู้ประกอบการและสถาบันเกษตรกร ตั้งแต่วันที่ 19 ก.ค. - 15 ส.ค.นี้ และสำหรับลูกค้าเกษตรกรและบุคคล 19 ก.ค. -15 ธ.ค. ปีนี้เช่นกัน

ขณะเดียวกัน กรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม จัดโครงการ “บังคับคดีร่วมใจไกล่เกลี่ยช่วยเหลือเกษตกรถูกยึดทรัพย์จำนอง” เพื่อเปิดโอกาสให้เจ้าหนี้และลูกหนี้ได้เจรจากันด้วยความพึงพอใจและเป็นธรรม ผู้ไกล่เกลี่ยกรมบังคับคดีเป็นคนกลางในการเจรจา โดยเจ้าหนี้ได้รับการชำระหนี้และลูกหนี้ก็สามารถชำระหนี้ได้เช่นกัน ช่วยให้ลูกหนี้ไม่ถูกยึดทรัพย์ อายัดทรัพย์ หรือนำไปขายทอดตลาดในที่สุด โครงการนี้มีจนถึง 15 ก.ย.นี้ ในพื้นที่ กทม. และสำนักงานบังคับคดีจังหวัด/สาขาทั่วประเทศ ซึ่งมาตรการต่างๆ ที่รัฐบาลออกมา มุ่งหวังให้ครอบคลุมกับประชนทุกกลุ่มและภาคเอกชนเพื่อให้การขับเคลื่อนฟื้นตัวเป็นไปอย่างมีส่วนร่วมและตรงจุดให้มากที่สุด

ที่มา : สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย


Line

คะแนนโหวต :
StarStarStarStarStar