รัฐบาลเดินหน้า เร่งเจรจาสั่งซื้อวัคซีนโควิด-19 ให้ครอบคลุมไวรัสกลายพันธ์ุ เร่งฉีดให้ประชาชนโดยเร็วที่สุด

รัฐบาลเดินหน้า เร่งเจรจาสั่งซื้อวัคซีนโควิด-19 ให้ครอบคลุมไวรัสกลายพันธ์ุ เร่งฉีดให้ประชาชนโดยเร็วที่สุด

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ศบค. เห็นชอบกรอบการจัดหาวัคซีน 120 ล้านโดสในปี 2565 นอกเหนือจาก 105.5 ล้านโดสที่จะจัดหามาภายในปี 2564 นี้ ขณะเดียวกันคณะรัฐมนตรียังเห็นชอบให้กระทรวงสาธารณสุขจัดหาวัคซีนไฟเซอร์ (Pfizer) ในเบื้องต้นจำนวน 20 ล้านโดส โดยมีกรมควบคุมโรคเป็นผู้เจรจาและสั่งซื้อ รวมทั้งให้องค์การเภสัชกรรมเป็นตัวกลางเจรจากับบริษัท ซิลลิค ฟาร์มา จำกัด ในการจัดหาวัคซีนโมเดอร์นา (Moderna) ซึ่งมีความคืบหน้าเป็นลำดับ ทั้งนี้แผนการจัดหาวัคซีนและการกระจายวัคซีนโดย ศบค. เป็นการทำงานร่วมกันในระดับนโยบายที่มีคำแนะนำด้านวิชาการจากคณะแพทย์ เพื่อให้เกิดความรอบคอบ รัฐบาลโดยกระทรวงสาธารณสุขจะเป็นผู้ดำเนินการจัดหาวัคซีนหลักที่ประชาชนสามารถเข้าถึงได้ฟรีโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ได้แก่ วัคซีน AstraZeneca, วัคซีน Sinovac, วัคซีน Pfizer และวัคซีน Johnson& Johnson โดยมีวัคซีน Sinopharm และวัคซีน Moderna เป็นวัคซีนทางเลือกภายใต้แนวทางความร่วมมือระหว่างหน่วยงานและเอกชน

นายกรัฐมนตรี ในฐานะผอ. ศบค. และที่ประชุม ศบค. ยังมีแนวทางในการเร่งรัดเจรจาจัดหาวัคซีนเพิ่มเติมคือ เร่งเจรจากับผู้ผลิตวัคซีนที่มีการพัฒนาวัคซีนรุ่นที่ 2 ที่จะสามารถครอบคลุมไวรัสที่มีการกลายพันธุ์ ,เร่งรัดการแสวงหาความร่วมมือกับต่างประเทศในการรับถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตวัคซีนด้วยแพลตฟอร์มอื่นๆ นอกเหนือจาก Viral vector หรือ mRNA ,สนับสนุนการวิจัยพัฒนาวัคซีนต้นแบบรองรับการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัส รวมทั้งกำหนดแนวทางการขึ้นทะเบียนสำหรับวัคซีนที่วิจัยพัฒนาในประเทศและการแสวงหาความร่วมมือกับต่างประเทศในการทดสอบวัคซีนในมนุษย์ระยะที่ 3 ,สนับสนุนการศึกษาภูมิคุ้มกันระยะยาวของผู้ที่ได้รับวัคซีนเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาให้วัคซีนเข็มที่ 3 รวมถึงติดตามความก้าวหน้าของการวิจัยพัฒนาวัคซีนโควิด-19 เพิ่มเติมเพื่อพิจารณาการจัดหาวัคซีนให้ครอบคลุมทุกกลุ่มอายุโดยเฉพาะกลุ่มเด็กและหญิงตั้งครรภ์

นายอนุชา ยืนยันว่า นายกรัฐมนตรีมีความมุ่งมั่น ตั้งใจที่จะจัดหาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้มากที่สุดและฉีดให้ทุกคนในประเทศไทยโดยเร็วที่สุด เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ลดอัตราการป่วย และเสียชีวิตให้มากที่สุด รวมทั้งปกป้องระบบสาธารณสุขของประเทศ

ที่มา : สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย


Line

คะแนนโหวต :
StarStarStarStarStar