นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) กล่าวถึงการปรับคำนวณยอดหนี้ใหม่ให้กับกลุ่มผู้กู้ยืมของกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาว่า ปัจจุบันกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ให้กู้ยืมไปแล้วกว่า 6.7 ล้านราย คิดเป็นมูลค่าประมาณ 700,000 ล้านบาท พบปิดบัญชีไปแล้วประมาณ 1.8 ล้านคน อยู่ระหว่างการเรียนประมาณ 1.3 ล้านคน และผู้กู้อยู่ระหว่างชำระหนี้ประมาณ 3.5 ล้านคน ซึ่งพบปัญหาหลายด้านชำระไม่ตรงตามกำหนด จึงได้แก้ข้อกฎหมายใหม่ที่ยอดหนี้จะถูกคำนวณตามกฎหมายใหม่ จากเดิมคำนวณดอกเบี้ย - เบี้ยปรับ - เงินต้น เป็นเงินต้น - ดอกเบี้ย – เบี้ยปรับแทน จะช่วยให้ผู้กู้ทุกคนมีภาระที่ลดลงมาก โดยพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาฉบับใหม่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งลูกหนี้ กยศ. ทุกรายจะได้รับสิทธิ์ประโยชน์ตามกฎหมายใหม่ เช่น การลดเบี้ยปรับเหลือร้อยละ 0.5 จากเดิมร้อยละ 18 และการปรับลำดับการตัดชำระหนี้ใหม่ เมื่อปรับโครงสร้างหนี้แล้วผู้ค้ำประกันเดิมทุกคนที่มีภาระอยู่จะหลุดจากภาระค้ำประกัน จะเริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนมกราคม 2567 เป็นต้นไป ทั้งนี้ เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ได้ชะลอการฟ้อง ชะลอการบังคับคดี และชะลอการขาย ด้วยการทำหนังสือไปยังศาลทั่วประเทศเพื่อขอขยายเวลาการบังคับคดีและทำหนังสือถึงกรมบังคับคดีของดการขายทอดตลาด เพื่อไม่ให้ลูกหนี้ กยศ.ได้รับผลกระทบและได้รับสิทธิ์ตามกฎหมายด้วย
สำหรับลูกหนี้ที่อยู่ในเกณฑ์อาจถูกดำเนินคดี อยู่ที่ประมาณ 10,000 คน หากติดต่อเจ้าหน้าที่ หรือชำระเงินเข้ามาการผ่อนผันนี้จะไม่มีปัญหา แต่หากไม่ติดต่อมาแล้วมีการฟ้องร้องแล้วสามารถไปขอยินยอมที่ศาลได้และสามารถผ่อนต่อได้ถึง 15 ปี ขอให้ลูกหนี้ กยศ.ไม่ต้องกังวล
ที่มา : สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์