นายชูชาติ รักจิตร อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวถึงสถานการณ์ปริมาณน้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ว่า กรมชลประทาน วางแผนบริหารจัดการน้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ช่วงหน้าแล้งปี 2566/67 หรือระหว่างวันที่ 1  พฤศจิกายน 2566 – 30 เมษายน 2567 เพื่อสนับสนุนการอุปโภค - บริโภค รักษาระบบนิเวศน์ การเกษตร การอุตสาหกรรม และอื่นๆ รวมปริมาณน้ำกว่า 800 ล้านลูกบาศก์เมตร

เนื่องจากมีการใช้น้ำตลอดช่วงหน้าแล้ง รวมกว่า 6 เดือน ประกอบกับสภาพอากาศที่มีความร้อนสูง ทำให้ปริมาณน้ำลดลง ณ วันที่ 1 พฤษภาคมสิ้นสุดการบริหารจัดการน้ำในหน้าแล้งปีนี้ พบเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีปริมาณน้ำอยู่ที่ 159.95 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 17 ของความจุอ่างฯ เพียงพอสนับสนุนการใช้น้ำช่วงต้นฤดูฝน กรณีที่เกิดฝนทิ้งช่วง ตามแผนจัดสรรน้ำช่วงฤดูฝนปี 2567 ที่วางไว้ แล้วยังเป็นการเตรียมพื้นที่อ่างเก็บน้ำไว้ สำหรับรองรับน้ำฝนปีนี้อย่างเต็มศักยภาพ

เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เป็นเขื่อนเก็บกักน้ำ 1 ใน 4 เขื่อนหลัก ที่เป็นแหล่งน้ำต้นทุนของลุ่มน้ำเจ้าพระยา โดยช่วงฤดูฝนปี 2566 ที่ผ่านมา เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์สามารถเก็บกักน้ำได้ประมาณ 1,019  ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 106 ของความจุอ่างฯ ปริมาณน้ำดังกล่าวจะเป็นน้ำต้นทุนใช้ในกิจกรรมต่างๆตลอดช่วงแล้งปี 2567 รวมระยะเวลากว่า 6 เดือน รวมทั้ง ยังเป็นน้ำต้นทุนสำรองไว้ใช้ช่วงต้นฤดูฝนปีนี้ด้วย กรณีเกิดฝนทิ้งช่วงหรือฝนยังตกไม่สม่ำเสมอประมาณเดือนพฤษภาคมถึงกรกฎาคมนี้

ที่มา : NBT CONNECT